Little Hero - Little Hero นิยาย Little Hero : Dek-D.com - Writer

    Little Hero

    เส้นทางของฮีโร่ตัวเล็กๆ บนโลกใบเล็กๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    197

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    197

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ก.ย. 52 / 02:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
                            ผ้าพันคอผืนหนึ่ง  หน้ากากใบหนึ่ง  มอเตอร์ไซด์คันหนึ่ง
                           ฮีโร่คนหนึ่ง  ศัตรูตัวหนึ่ง  กับฉากการต่อสู้ที่ตื่นตาตื่นใจฉากหนึ่ง
                           มดแดงมองดูทีวี  มองอย่างเคลิบเคลิ้ม  มองอย่างไม่วางตา
                           เด็กๆคู่กับทีวี  เด็กๆคู่กับฮีโร่  และเด็กๆก็คู่กับการเพ้อฝัน  
                           ในอดีตสิบปีก่อนเป็นเช่นนี้  ในอนาคตสิบปีให้หลังก็คงไม่ต่างกัน  ในโลกนี้บางสิ่งบางอย่างคล้ายถูกสร้างขึ้นมาอยู่คู่กันตั้งแต่แรก  เหมือนกาแฟคู่คอฟฟี่เมด  และเหมือนน้ำเต้าหู้คู่ครูระเบียบ
                           แม้มดแดงจะเป็นเด็กน้อย  แม้มดแดงจะเป็นผู้หญิง  แต่มดแดงก็ยังคู่กับฮีโร่  และยิ่งคู่กับมอเตอร์ไซด์
                           พ่อแม่ของเธอออกไปทำงานหาเงินที่บางกอก  ทิ้งเธอไว้ให้อยู่กับคุณลุงที่ร้านซ่อมรถเพียงลำพัง  ดังนั้นไม่ว่าเช้า สาย บ่าย เย็น  เพียงลืมตาขึ้นเธอก็จะพบมอเตอร์ไซด์จอดกันเรียงราย                       เพียงเงี่ยหูฟังก็จะได้ยินเสียงท่อไอเสียจากเจ้าจักรกลสองล้อนี้ดังกระหึ่มเสมอ  ดังนั้นระหว่างเธอกับมอเตอร์ไซด์ก็คล้ายเกิดมาอยู่คู่กันเหมือนกัน
                           เธอเองก็ไฝ่ฝันว่าวันหนึ่งโตขึ้นจะต้องมีรถขี่เป็นของตัวเองบ้างซักคัน  จากนั้นก็ออกเดินทางท่องเที่ยวแบบเดียวกับฮีโร่ในทีวี  ใช่แล้ว  เป็นการท่องเที่ยวเพื่อพิทักษ์คุณธรรม
                           แน่นอน  ว่านั่นก็เป็นเรื่องในอนาคตที่แสนยาวไกลเท่านั้นเอง
       
                           หนังจบแล้ว  มดแดงลุกขึ้นไปปิดทีวี  จากนั้นก็เอาผ้าพันคอตัวเก่งมาพัน  เป็นผ้าพันคอสีแดงสด
                           ก่อนออกจากบ้าน  เธอต้องเตรียมตัวให้พร้อมเสมอ  ผ้าพันคอนั้นขาดไม่ได้  จักรยานขาดไม่ได้  หมวกกันน๊อคยิ่งขาดไม่ได้
                           คิดจะเป็นนักบิด  ต้องสวมหมวกกันน๊อค  นี่เป็นความรู้พื้นฐานของคนขี่รถมอเตอร์ไซด์  แม้ว่าตอนนี้เธอจะแค่ขี่จักรยาน  แต่เธอก็ฝึกฝนจิตสำนึกนี้เผื่อไว้สำหรับวันหน้าเสมอ
                           คนขี่จักรยานสวมหมวกไม่ผิดกฏหมาย  แต่คนขี่มอเตอร์ไซด์ไม่สวมหมวกนี่สิผิด  คนขี่รถส่วนมากมองแค่ความสะดวกจนละเลยที่จะสนใจสิ่งนี้  สุดท้ายก็จบลงที่เป็นศพนอนแผ่อยู่ในโลง  
                           สำหรับข้อนี้มดแดงถูกคุณลุงปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก  เรียกได้ว่าสอนกันตั้งแต่หัดขี่จักรยานกันเลยทีเดียว
                           ดังนั้นมดแดงจึงสวมหมวกยามขี่รถเสมอ  แถมเวลาผ่านไปเจอคนขี่รถไม่สวมหมวกก็ยังมีการเคาะหมวกก๊อกๆเป็นเชิงสั่งสอนอีกด้วย  เหล่านักบิดทั้งหลายในตำบลต่างก็เจอเด็กน้อยสวมหมวกมาเย้ยจนอับอายขายขี้หน้ากลับไปเป็นแถวๆ  ให้มันรู้กันไปสิว่าขนาดเด็กตัวกระเปี๊ยกมันยังมีจิตสำนึก  แล้วผู้ใหญ่ตัวโตๆล่ะมีอ๊ะเปล่า ?
       
      ------------------------------------------------------------------------------------------
          
                           เสียงดังเอี๊ยดๆอ๊าดๆจากจักรยานติดล้อเสริมดังขึ้น  เป็นสัญญาณการออกเดินทางของเด็กน้อย
                           สำหรับวันนี้  เช้าวันอาทิตย์  เธอมีสถานที่ๆต้องไปเป็นพิเศษ
                           พอตัดผ่านตลาด  เลาะไปตามเส้นทางลายเล็กราวๆครึ่งกิโล  จะมีสวนสาธารณะประจำชุมชน  นั่นเป็นสถานที่ๆเธอจะไปในวันนี้
                           เธอขี่รถส่ายอาดๆเข้าไปในสวน  ผ่านฝูงผู้คนที่มาเต้นแอโรบิค  ผ่านกลุ่มผู้คนที่มาวิ่งออกกำลังกาย  สุดท้ายก็ไปหยุดอยู่ที่ข้างศาลาริมน้ำแห่งหนึ่ง
                           ที่นั่นไม่มีผู้คนมากมาย  เป็นศาลาที่เงียบสงบ  และมีคนอยู่เพียงคนเดียว
                           ชายชราผู้หนึ่งกำลังร่ายรำท่วงท่าอย่างเชื่องช้า  เป็นท่วงท่าที่แม้จะเชื่องช้า  แม้จะดูเรียบง่าย  แต่กลับคล้ายมีพลังอันมองไม่เห็นมาควบคุมอาณาบริเวณโดยรอบ  ที่โดยปกติก็เงียบสงบอยู่แล้ว  ให้ยิ่งเงียบกริบจนแปลกประหลาด
                           แต่ความเงียบสงบที่ว่า  ก็มีอยู่ได้แค่เพียงก่อนหน้านี้เท่านั้น
       
                           "คุณปู่  หนูมาแล้ว !!!!"
                           เสียงเด็กน้อยตะโกนเจื้อยแจ้วเหมือนระเบิดลง  จากที่เงียบอยู่ดีๆก็เล่นเอาทั้งนกทั้งแมลงแถบนั้นเผ่นหนีกันเป็นแถวๆ  พลอยทำให้ชายชราที่กำลังรำมวยเพลินๆตกใจจนสะดุ้งเฮือกตามไปด้วย
                           ชายชราหันรีหันขวางเพื่อตามหาต้นเสียง  พอเห็นมดแดงที่นั่งยิ้มร่าอยู่บนอานจักรยานก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
                           "โธ่ถัง  นี่ความสงบสุขของเราผู้เฒ่าที่มีมาตั้งแปดสิบกว่าปี  จะต้องมาจบลงในวันนี้เองหรือ ?"
                           ชายชราพึมพำออกมาเบาๆด้วยสำนวนราวกับหลุดออกมาจากนวนิยายกำลังภายในโบราณ  ไม่ทราบว่าเป็นเพราะฝึกมวยจีนมามากเกินไป  หรือว่าเพราะอ่านนิยายมามากเกินไปกันแน่
                           "หนูมาตามสัญญาแล้ว  คุณปู่ก็ต้องสอนมวยจีนให้หนูตามสัญญาเหมือนกันนะ"
                           ชายชราทอดถอนใจอีกเฮือก  วันก่อนตอนรำมวยจู่ๆมีเด็กมาขอเป็นศิษย์ก็ว่าแปลกพออยู่แล้ว  พอบอกปัดไปมั่วๆว่าไม่ว่างให้มาไหม่วันหลัง  ก็ดันโผล่มามาทุกวันซะอีกนี่  เด็กจอมตื๊อขนาดนี้เกิดมาตั้งแปดสิบกว่าปียังไม่เคยพบเคยเห็น
                           แต่พอมองดูแบบตาใสซื่อของเด็กน้อยที่เปี่ยมไปด้วยความหวังนั้นแล้ว  จะให้บอกปัดไปอีกก็ทำไม่ลง
                           "เด็กน้อยเอ๋ย  เวลามีเยอะแยะไม่เอาไปวิ่งเล่นให้สมเป็นเด็ก  จะมาฝึกมวยจีนให้มันลำบากลำบนไปทำไมกัน ?"
                           ชายชรากล่าวถาม  ยังคงเป็นการพูดตามสไตล์นิยายกำลังภายใน  หากตอนนี้คุณน.นพรัตน์  นักแปลนิยายกำลังภายในตัวยงผ่านมาเห็นเข้าคงจะปลื้มน่าดู
                           มดแดงยืดอกเชิดหน้ากล่าวอย่างมาดมั่นว่า
                           "ฮีโร่ก็ต้องฝึกวิชาต่อสู้สิคุณปู่ !!"
                           ชายชรามองดูเด็กน้อยที่เบื้องหน้า  แค่เห็นหมวกกันน๊อคมีเสาอากาศกับผ้าพันคอสีแดงสดใส  เขาก็พอจะเดาได้แล้วว่าเด็กน้อยอยากจะเป็นฮีโร่แบบไหน
                           "เด็กเอ๋ย  เส้นทางชีวิตฮีโร่มันแสนลำเค็ญ  แล้วจะมานะบากบั่นเป็นไปทำไมเล่า ?  อยู่เฉยๆให้มันสบายตัวสบายใจไม่ดีกว่ากันหรอกหรือ ?"
                           "ไม่ดีหรอก  ก็เป็นฮีโร่แล้วมันเท่ห์กว่านี่นา"
                           ชายชราทอดถอนใจอีกเฮือกหนึ่ง  วันนี้เป็นวันอะไรกันหนอ  ถึงได้มาเจอแบบนี้  รู้งี้วันก่อนไม่ตกปากรับคำส่งเดชซะก็ดี
                           มองดูอีกที  ก็เห็นเด็กน้อยกำลังเต้นไปเต้นมา  ดูเหมือนว่าเธอกำลังพยายามเลียนแบบท่ารำมวยของชายชราอยู่  แต่เขาดูกี่ทีก็เหมือนลูกแมวกำลังวิ่งไปมาโดดไล่จับผีเสื้อซะมากกว่า
                           "เอาเถอะ  บางทีการได้พบเด็กคนนี้อาจเป็นบุญพาวาสนาส่งก็เป็นได้  ถึงจะทำทีท่าเหมือนอยากเล่นเป็นฮีโร่ตามในหนัง  แต่ดูๆไปแล้วไอ้ความมุ่งมั่นแบบเด็กๆนั่นก็ดูน่ารักดีเหมือนกัน  ไหนๆก็ว่างอยู่แล้วลองสอนให้ซักท่าสองท่าจะเป็นไร  อย่างน้อยก็คงพอแก้เบื่อได้บ้างล่ะมั้ง"
                           ชายชราคิดอยู่ในใจ
                           ส่วนทางเด็กน้อย  หลังจากเต้นไปเต้นมาจนเหนื่อยแล้วก็หันมาถามว่า
                           "แล้วคุณปู่จะสอนวิชาหมัดอะไรให้หนูล่ะ ?"
                           ชายชรามองดูท่าทางของเด็กน้อยเพียงแวบเดียวก็ตัดสินใจได้  สำหรับเด็กคนนี้แล้ว  มีเพียงวิชาเดียวที่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
                           ชายชรายิ้มเล็กน้อย  ลูบเคราพลางตอบว่า
                           "หมัดแมวเมามาย"
       
       ------------------------------------------------------------------------------------------
        
                           สายลมโชยพัดมาวูบหนึ่ง  เคราขาวของผู้เฒ่าปลิวไสว  ผ้าพันคอสีแดงสดของเด็กน้อยก็ปลิวไสว
                           หมัดแมวเมามาย  เป็นเพลงหมัดที่ฟังดูพิกล  แต่ชายชรายืนยันว่านั่นเป็นวิชาที่เหมาะกับมดแดงที่สุดแล้ว  เนื่องเพราะท่าทางของเด็กน้อยดูคล้ายกับลูกแมวที่เมามายจนอยู่ไม่สุขนั่นเอง
                           การฝึกวิชาที่ดีที่สุด  ควรฝึกให้เข้ากับลักษณะประจำตัวของผู้ฝึกวิชา  หาไม่แล้วก็เหมือนเอาช้อนไปขุดดิน  เอาตะหลิวมาแคะฟัน  ทั้งเปลืองแรงทั้งเสียเวลา
                           เด็กน้อยตอนนี้ก็เหมือนเป็นลูกแมวที่เมามายตามชื่อวิชา  ด้วยความตื่นเต้นดีใจที่จะได้เป็นฮีโร่ทำให้เธอเต้นไปเต้นมาอย่างอยู่ไม่สุข  จนชายชราแค่มองดูก็เริ่มเมามายเวียนหัวตามไปด้วยมั่งแล้ว
                           "แล้วจะฝึกหมัดแมวเมาเป๋นี่ต้องเริ่มยังไงกันล่ะคุณปู่  หรือต้องกินเหล้าให้เมาก่อน ?"
                           "แมวเมามายไม่ใช่แมวเมาเป๋  อย่าสับสน"
                           ชายชราแก้คำผิดให้  ก่อนจะเริ่มอธิบายถึงตัววิชา
                           "ไอ้แมวเมามายนี่มันก็แค่คำเปรียบเทียบ  หมายถึงวิชาที่เลียนแบบการเคลื่อนไหวของแมวที่ไร้รูปแบบเหมือนเมามาย  ซึ่งความเป็นจริงแล้วไม่ต้องกินเหล้าก็ได้  แค่ทำตัวให้เหมือนแมวก็พอ"
                           "แล้วมันทำยังไงอ่ะ ?  ต้องร้องเหมียวแล้วกินปลาใช่ไหม ?"
                           "ไอ้แบบนั้นมันแค่ผิวเผิน  เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าแค่ตั้งใจทำท่าให้เหมือนก็จบกัน  มันมีอะไรมากกว่านั้น  แต่ของแบบนี้อธิบายไปก็วุ่นวาย  เอาเป็นว่าฝึกๆไปมันก็ทำได้เองแหละ  แต่จะนานขนาดไหนนี่ไม่รู้นะ"
                           "ที่ว่านานนี่ถึงชั่วโมงรึเปล่าอ่ะ ?"
                           ชายชราแสยะยิ้ม ลูบเคราแล้วตอบว่า
                           "ถ้าฝึกทุกวันก็ซักสิบปีล่ะมั้ง"
                           เด็กน้อยตกใจจนหงายหลัง  สำหรับเธอแค่เพียงชั่วโมงเดียวก็ถือว่านานมากแล้ว  ถ้าต้องฝึกกันเป็นปีมีหวังกลับบ้านช้าโดนลุงดุหูชาแน่ๆ
                           "ไง  รู้แบบนี้แล้วยังจะอยากฝึกอีกมั้ย ?"
                           "ถ้าฝึกนานขนาดนั้นหนูก็กลับบ้านช้าจนโดนดุน่ะสิ"
                           "ถ้ามาฝึกตอนเช้าวันละชั่วโมงสองชั่วโมงก็คงกลับไม่ช้าหรอก  แต่ต้องมาทุกวันนะ  ทำได้รึเปล่าล่ะ ?"
                           ชายชรากล่าวพึมพำแถมท้ายอีกว่า
                           "ไอ้การตื่นเช้ามาฝึกทุกๆวันนี่มันลำบากนา  การ์ตูนรอบเช้าก็ไม่ได้ดู  นอนตีพุงจนสายก็ทำไม่ได้  อยู่บ้านยังสบายกว่ากันตั้งเยอะ"
       
                           มดแดงหหยิบภาพโปสการ์ดใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า  ในภาพมีคุณลุงคนหนึ่งกำลังยิ้มร่า  เป็นคุณลุงท่าทางใจดีในชุดสูท  สวมรองเท้าบู๊ทขี่มอเตอร์ไซด์  
                           คุณลุงคนนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เธออยากเป็นฮีโร่  คุณลุงต่อสู้กับเหล่าร้ายเพื่อปกป้องเด็กๆทุกอาทิตย์  ดังนั้นเธอจึงอยากเป็นคนที่เท่ห์และเข้มแข็งเหมือนกับคุณลุง
                           คุณลุงเองก็ยังต่อสู้กับเหล่าร้ายโดยไม่กลัวลำบาก  แล้วเธอจะมากลัวลำบากอยู่ได้ยังไงกัน
                           พอคิดได้ดังนั้นความกล้าหาญก็พลุ่งพล่านขึ้นมา  เธอตอบชายชราอย่างมุ่งมั่นว่า
                           "หนูไม่กลัวลำบากหรอก  เพราะว่าหนูจะเป็นฮีโร่ !!"
       
      ------------------------------------------------------------------------------------------
       
       
                           เด็กคนหนึ่ง  จักรยานคันหนึ่ง  ผ้าพันคอผืนหนึ่ง
                           หมวกกันน๊อคใบหนึ่ง  หน้ากากราคาถูกอันหนึ่ง  กับหัวใจที่พองโตดวงหนึ่ง
                           นั่นเป็นตัวเอกในละครอันราบเรียบธรรมดาเรื่องหนึ่ง  เป็นละครชีวิตอันแสนธรรมดาของเด็กคนหนึ่ง
       
                           ในอดีตมีคนพูดเอาไว้ว่า  ชีวิตคนก็เปรียบเหมือนละคร  แต่จะเป็นละครชนิดไหนนั้น  ก็ขึ้นอยู่กับว่าตัวเอกจะเดินเรื่องอย่างไร
                           สำหรับมดแดงแล้ว  เธอเลือกที่จะให้ชีวิตตัวเองเป็นหนังฮีโร่
                           บางทีละครเรื่องนี้อาจจะไม่เลิศหรูอลังการ  การจะไม่มีเรื่องราวอันตื่นเต้นเร้าใจ  เป็นเพียงหนังฮีโร่ทุนต่ำเรื่องหนึ่งเท่านั้น
                           แต่ไม่ว่าจะเป็นฮีโร่อะไร  ฮีโร่ก็ยังเป็นมิตรแห่งความเที่ยงธรรม  เป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือปวงประชาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
                           การฝึกมวยจีนของเธอจะประสบผลอย่างไร  นั่นเป็นเรื่องของอนาคตอันแสนไกล  แต่เรื่องที่เธอเป็นตัวเอกในหนังฮีโร่ของตัวเองนั้น  เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้จริงแท้แน่นอน
                           มดแดงไม่ได้คิดถึงเรื่องของโลก  ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนแปลงยุคสมัย  เธอเพียงต้องการเป็นฮีโร่บนเส้นทางละครชีวิตของตนเองเท่านั้นเอง
                           ถึงแม้ว่านั่นจะเป็นเพียงละครเรื่องเล็กๆเรตติ้งติดดินก็ตามที  แต่ถึงกระนั้นก็ตาม  หากในยุคมืดนี้จะมีหนังฮีโร่เล็กๆเพิ่มขึ้นอีกสักเรื่องสองเรื่อง  ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย
                           เป็นหนังฮีโร่ทุนต่ำ  เป็นเรื่องของฮีโร่ตัวเล็กๆ  ที่คอยรักษาความยุติธรรมเล็กในโลกเล็กๆเท่าที่มือจะเอื้อมไปถึง
       
                           ในวันนี้  ในสายลมมีเสียงร่ำไห้อย่างโศกเศร้าปะปนมา  และก็มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดๆของจักรยานติดล้อเสริมดังขึ้นด้วยในเวลาเดียวกัน
                           สายลมพอพัดมาวูบหนึ่ง  ผ้าพันคอสีแดงสดก็ปลิวไสวไปตามทิศทางลม  แสงตะวันพอทอดมา  ก็กระทบหน้ากากสีเขียวรูปร่างประหลาดจนเป็นประกาย
                           นั่นล่ะคือตัวเอกของเรื่องนี้  ฮีโร่ตัวเล็กๆในละครเรื่องเล็กๆที่ไม่มีอะไรหวือหวาอลังการ
                           แต่ขอเพียงเป็นฮีโร่  แม้จะไม่เท่ห์ไม่เก่งกาจ  แต่ก็ยังสามารถเปลี่ยนน้ำตาของผู้คนเป็นรอยยิ้มได้เสมอ
                           สำหรับละครเรื่องหนึ่ง  แค่เพียงเท่านั้นก็ดีถมไปแล้วไม่ใช่หรือ ?
       
      ------------------------------------------------ จบ ------------------------------------------------

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×